บทที่ 1 การทรยศ

ร้านกาแฟชานเมือง

เบบี้นั่งอยู่บนโซฟา มองแฟนหนุ่มของเธอ โอม ด้วยความกระวนกระวายใจ

“โอม” เบบี้ใช้มือขวาจับแขนเสื้อของโอมไว้ แล้วถามอย่างร้อนรนว่า “คุณว่าเราจะทำยังไงกันดี คุณรีบคิดหาวิธีหน่อยสิ”

โอมนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ เม้มปากแน่น นิ้วมือวางอยู่บนถ้วยกาแฟ ลูบไล้มันอย่างกระสับกระส่าย

“เบบี้ คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลยนะ ให้ผมคิดดูก่อน”

“ฉันจะไม่ร้อนใจได้ยังไงล่ะ พรุ่งนี้ฉันก็ต้องแต่งงานกับอาของคุณแล้วนะ แต่ว่า... แฟนของฉันคือคุณไม่ใช่เหรอ”

เบบี้ราวกับตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ขมวดคิ้ว กัดริมฝีปาก สีหน้าเด็ดเดี่ยว “โอม ฉันคิดดีแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้แม่เลี้ยงกับน้องสาวบงการชีวิตฉัน ฉันไม่อยากแต่งงานกับเค” เธอกลับมาจับมือแฟนหนุ่มของเธอ ราวกับทุบหม้อข้าวหม้อแกง “เราหนีตามกันไปเถอะ!”

โอมทำท่าเหมือนโดนมือเธอเผา รีบชักมือกลับทันที แล้วพูดตะกุกตะกักว่า “เบบี้ เรื่องนี้เราต้องวางแผนกันให้ดีๆ ก่อนนะ เพราะว่า... ไม่มีใครรู้เลยว่าคุณเป็นแฟนผม ถ้าเกิดตระกูลบุญศิริรู้เข้าว่าผมเป็นคนพาคุณหนีไป ผมจะยังอยู่ในตระกูลบุญศิริได้ยังไงล่ะ”

เขามองเบบี้ที่หน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด แล้วรีบปลอบว่า “เอางี้ พรุ่งนี้คุณทำเป็นไม่รู้อะไรเลย เข้าร่วมงานแต่งงานไปตามปกติ แล้วรอโทรศัพท์จากผม โอเคไหม วางใจเถอะ เบบี้ ผมจะพาคุณหนีไปให้ได้แน่นอน ต่อให้แผนล้มเหลว อย่างน้อยเคก็อยู่ได้อีกไม่นาน แถมยังเป็นเจ้าชายนิทราอีก พอเขาตายปุ๊บ ผมจะรีบพาคุณไปทันที! วางใจได้เลย! ผมไม่ทิ้งคุณไปไหนแน่นอน!”

เมื่อเบบี้ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ก็วางใจลงทันที พร้อมกับส่งยิ้มให้เขา

พอโอมเห็นรอยยิ้มของเธอ เขาก็เผลอชะงักไปครู่หนึ่ง

รอยยิ้มนั้นงดงามล่มเมือง จนแทบจะทำให้สายตาของเขาพร่ามัว

เกือบจะทำให้เขาใจอ่อนจนยอมล้มเลิกแผนการของตัวเอง

วันรุ่งขึ้น ณ สถานที่จัดงานแต่งงานของตระกูลบุญศิริ

หน้ากระจกแต่งหน้า เบบี้แต่งหน้าทำผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว

รูปร่างของเธอดีมาก ทั้งยังสูงโปร่ง

ชุดแต่งงานเป็นแบบสั่งตัดพิเศษ จึงพอดีตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ชุดแต่งงานสีขาวโอบรัดเรือนร่างอันงดงามของเธอ ชายกระโปรงยาวจรดข้อเท้า

เอวของเธอเล็กคอดจนแทบจะโอบได้ด้วยมือเดียว แต่ก็ไม่ใช่แค่ผอมอย่างเดียว ส่วนที่ควรจะมีเนื้อก็มีเนื้อ

ผิวของเธอขาวผ่องดุจหิมะ เครื่องสำอางบนใบหน้าทำให้เธอดูสวยสดใสน่าหลงใหล ราวกับดอกกุหลาบแดงที่กำลังจะผลิบาน

ในกระจกสะท้อนใบหน้าที่งดงามราวกับภาพวาด

เพียงแต่ในดวงตารูปอัลมอนด์คู่นั้น กลับฉายแววหวาดวิตกกังวล

เหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีก่อนจะเริ่มพิธี เธอยังคงเลื่อนหน้าจอมือถือไม่หยุด รอคอยการตอบกลับอย่างร้อนใจ

ทั้งที่ตกลงกับโอมไว้แล้ว ว่าเขาจะพาเธอหนีตามกันไป ให้พ้นจากเมืองเอ แต่กลับยังไม่ได้รับโทรศัพท์จากเขาสักที

เธอรอต่อไปไม่ไหวแล้ว

งานแต่งงานในครั้งนี้ มีเพียงเจ้าสาว

เจ้าบ่าวไม่ได้มา

เมื่อครึ่งปีก่อน อุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เคนต้องนอนติดเตียง ไม่รู้สึกตัว กลายเป็นเจ้าชายนิทรา

ยิ่งไปกว่านั้น หมอยังวินิจฉัยว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงหนึ่งปี

รวิสรา แม่ของเขา เมื่อได้ยินข่าวนี้ก็ใจสลาย

เมื่อคิดว่าลูกชายต้องมาประสบเคราะห์กรรมตั้งแต่อายุยังน้อย ช่างโชคร้ายเหลือเกิน เธอจึงตัดสินใจจัดงานแต่งงานให้เขาในช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่

ถึงแม้ตระกูลบุญศิริจะเป็นตระกูลชั้นนำอันดับหนึ่งของเมืองเอ แต่ก็ไม่มีครอบครัวไหนยอมยกลูกสาวให้แต่งงานกับคนที่กำลังจะตาย

ยิ่งไปกว่านั้น เบบี้ก็มีแฟนอยู่แล้ว เธอยิ่งไม่อยากกระโจนเข้ากองไฟนี้

เธอผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ กำมือถือแน่น แล้วหาข้ออ้างออกมาจากห้อง

ในห้องแต่งตัวมีคนอยู่ เธอโทรออกไม่ได้

แต่ตอนนี้เธอต้องติดต่อโอมให้ได้ทันที

เธออยากรู้ว่าโอมวางแผนจะช่วยให้เธอหนีออกจากงานแต่งงานนี้ได้อย่างไร

ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการของแม่เลี้ยงกับน้องสาวต่างแม่ เธอก็คงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่

เธอใช้สองมือยกชายกระโปรงที่หนักอึ้งขึ้น สวมรองเท้าส้นสูงเดินไปตามทางเดิน ตั้งใจจะหาที่ที่ไม่มีคนเพื่อโทรศัพท์

เมื่อเดินผ่านทางเดินยาว ผ่านห้องพักห้องหนึ่ง เท้าของเธอก็หยุดชะงัก

เพราะเธอได้ยินเสียงหัวเราะอย่างออดอ้อนของพิงค์ น้องสาวของเธอ

เนื่องจากประตูห้องพักแง้มอยู่ เธอจึงมองลอดช่องประตูเข้าไปข้างใน

“โอม พี่สาวโง่ๆ ของฉันตอนนี้คงกำลังรอให้คุณไปช่วยเธออยู่แน่ๆ! ไม่งั้น... เดี๋ยวคุณไปปลอบเธอหน่อยดีไหม เผื่อว่าเธอเปลี่ยนใจ ไม่แต่งแล้วจะทำยังไง”

พิงค์กำลังอยู่ในห้องกับชายคนหนึ่งในชุดสูท ตัวของพิงค์เกาะอยู่บนตัวชายคนนั้นทั้งตัว

ชายคนนั้นโอบกอดพิงค์ไว้ มือใหญ่ของเขาลูบไล้ไปมาบนต้นขาของเธอ

ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน

ริมฝีปากของชายคนนั้นกำลังซุกไซ้อยู่บนลำคอของพิงค์อย่างไม่เป็นส่ำ “เบบี้ ยัยคนสมองทึบนั่น ในสถานการณ์แบบนี้ จะให้เธอทำตามใจตัวเองได้ยังไงกันล่ะ เธอบอกไม่แต่งก็ไม่แต่งเลยเหรอ เธอมีความสามารถขนาดนั้นเลยเหรอ ขึ้นเรือแล้วลงยากจะตาย ถ้าเธอกล้าหนีนะ บอดี้การ์ดของตระกูลบุญศิริเราก็จะจับมัดเธอมาทำพิธีแต่งงานให้เสร็จจนได้!”

เบบี้ยืนอยู่หน้าประตู ฟังเสียงที่คุ้นเคยอย่างยิ่ง มองร่างที่คุ้นเคยยิ่งกว่า เลือดในกายราวกับแข็งตัว

เสียงนั้น... ที่เคยกระซิบข้างหูเธอ บอกรักเธอด้วยถ้อยคำหวานซึ้งนับไม่ถ้วน!

โอม!

ในตอนที่เธอโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง เขากลับแอบไปมีอะไรกับน้องสาวของเธออยู่ตรงนี้!

ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังถูกเขาหักหลังโดยไม่รู้ตัว ยังคงรอคอยอย่างโง่เขลาให้เขามาช่วยเธอออกไป!

เบบี้ตาลายพร่าไปหมด เธอเซเล็กน้อยแล้วใช้มือยันกำแพงไว้

เสียงแหลมแสบแก้วหูของพิงค์พุ่งเข้ามาในโสตประสาทของเธอ “โอม ถ้าเบบี้รู้ว่าจริงๆ แล้วทุกคืนคุณอยู่กับฉัน คุณว่าเธอจะโกรธจนบ้าไปเลยไหม ฮ่าๆๆๆ!”

ในหัวของเบบี้มีเสียงดังกระหึ่ม! โลกตรงหน้ามืดดับไปชั่วขณะ โชคดีที่เธอยันกำแพงไว้จึงไม่ล้มลงไป

มือกำชายกระโปรงแน่น ตัวสั่นเทาเล็กน้อย หลับตาลง พยายามกลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอในดวงตา

บริษัทของพ่อขาดสภาพคล่องทางการเงิน กำลังจะล้มละลาย

ด้วยความเครียดจัด เขาก็ล้มป่วยลงนอนติดเตียง

บทถัดไป